NEWCAR OF THE MONTH

NEWCAR OF THE MONTH

รถใหม่ 13 รุ่นจาก 12 ค่ายผู้ผลิต ออกวางจำหน่ายแล้วในยุโรป อเมริกา รวมถึงบางประเทศในทวีปเอเชีย...


เศรษฐกิจในยุโรปยังคงย่ำแย่จากปัญหาราคาบ้านและที่ดินรวมถึงหนี้สินระหว่างประเทศที่กลายเป็นตัวฉุดยั้งการเจริญเติบโตสำหรับวงการอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ทั่วโลก แต่ตลาดรถยนต์ในประเทศจีนที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ยังคงส่งผลดีให้กับเหล่าบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่เริ่มเบนทิศทางของการจำหน่ายไปยังประเทศจีนมากยิ่งขึ้น รถใหม่ที่เปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายน 2012 ยังคงเน้นไปที่การประหยัดพลังงาน การลดค่ามลภาวะในระดับ EURO-5 รวมถึงรถยนต์เครื่องยนต์ลูกผสมแบบ Hybrid ที่กำลังมาแรงสุดๆ จากปัญหาของราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นโดยไม่มีทีท่าว่าจะถูกลงอีกแล้ว

Lamborghini Aventador J
มันคือซุปเปอร์คาร์เปิดประทุนแนว Roadster จากค่ายกระทิงที่ถูกสร้างขึ้นมาเพียงแค่คันเดียวเท่านั้น ราคาค่าตัว 2.1 ล้านปอนด์คันนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น Aventador แต่โดนหั่นหลังคาทิ้งโดยไม่มีแม้แต่หลังคาผ้าใบมาให้หนักรถอีกด้วย รถ Aventador J วางเครื่องยนต์รุ่นใหม่ขนาด V12 ปริมาตรความจุ 6.5 ลิตร 700 แรงม้า ระบบส่งกำลังแบบล่าสุด ISR พร้อมด้วยชุดขับเคลื่อนสี่ล้อ All wheel drive บนน้ำหนักตัวที่ 1,575 กิโลกรัม ทุกสัดส่วนของตัวถังด้านนอกได้รับการออกแบบเหลี่ยมมุมใหม่หมด มีความกว้าง (ไม่รวมกระจก) ที่ 2,300 มิลลิเมตร ยาว 4,890 มิลลิเมตร และสูงเพียงแค่ 1,110 มิลลิเมตร วงล้อคู่หน้าใช้ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว ส่วนล้อหลังถูกทำให้เข้ากับซุ้มล้อและแนวบั้นท้าย ที่แบนกว้างด้วยล้อขนาด 21 นิ้ว กระทิงไร้หลังคาคันนี้ มีสปอยเลอร์หน้า-หลังแบบใหม่ ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ดีไซน์เพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทานของอากาศ กระจกบังลมบานเล็กแบบแยกส่วน ทำให้มันมีมุมมองที่คล้ายคลึงกับอากาศยานมากยิ่งขึ้น

BMW M6 Coupe
M6 ตัวใหม่วางเครื่อง V8 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบที่ทรงอานุภาพของ M5 ตัวปัจจุบัน ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติอันชาญฉลาด M-DCT ซึ่งเป็นเกียร์คลัตช์คู่ ถ่ายเทแรงบิดผ่าน Active M Differential ไปยังล้อคู่หลังบนเฟืองท้ายที่ทดมาเป็นพิเศษ ปุ่ม M Button ปรับความสมดุลของตัวรถเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำความเร็ว ระบบควบคุมเสถียรภาพ DSC ยังเป็นแบบที่นักขับทุกคนต้องการ รูปลักษณ์ภายนอก มีงานสปอยเลอร์ที่แตกต่างจากรุ่นปกติ เพื่อบ่งบอกให้ผู้ร่วมทางรับรู้ว่ามันไม่ไช่ Series-6 ตัวปกติ ออปชั่นเสริมพวกเบรกคาร์บอนเซรามิกส์ยังช่วยให้พวกตีนผีมีความมั่นใจมากยิ่ง ขึ้น จานเบรกคาร์บอนที่ด้านหน้าขนาด 410 มิลลิเมตร พร้อมคาร์ลิปเปอร์ 6 ลูกสูบ ส่วนจานหลังมีขนาด 396 มิลลิเมตร ประกบด้วยคาร์ลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ เอาอยู่ในทุกระดับความเร็ว หากคุณมีฝีมือมากพอ ราคาค่าตัวแตะระดับ 1 แสนปอนด์ บ่งบอกว่ามันคืองานวิศวกรรมราคาแพงของพวกเยอรมันที่น่าขับมากที่สุดอีกคัน สำหรับรถสปอร์ตในสไตล์ GT-Gran Turismo

Jaguar XKR-S Cabriolet
เจ้าเสือเปิดประทุนตัวแรงคันนี้ คลอดออกมาตามหลังรุ่น XKR-S แบบหลังคาแข็งเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ในตลาดรถซุปเปอร์คาร์สมรรถนะสูงที่สามารถเปิดหลังคารับลมชมวิวได้หากไม่กลัว ผมยุ่ง มันใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันกับรุ่นปกติ แต่มีการเสริมความแข็งแรงของแชสซีส์ให้เพิ่มขึ้นไปอีกระดับ เนื่องจากมันไร้โครงสร้างหลังคาที่จะมาช่วยในเรื่องของการบิดตัวยามวิ่งหรือเลี้ยวด้วยความเร็วสูง รถ XKR-S Cabriolet มีทุกอย่างเหมือนรุ่น Coupe ใช้เครื่องยนต์ V8 542 แรงม้า อัดอากาศด้วยซุปเปอร์ชาร์จของอีตัน ผู้ผลิตระบบอัดอากาศชั้นนำให้กับรถสปอร์ต มันมีน้ำหนักตัวรวมทั้งสิ้น 1,678 กิโลกรัม เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรได้ใน 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุดแตะระดับ 188 ไมล์ต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ ZF 6 สปีด ถ่ายเทแรงบิดระดับ 502 ปอนด์ฟุตไปยังล้อคู่หลังเหมือนเดิม กับราคาค่าตัวที่แพงหูดับถึง 103,000 ปอนด์

MINI Cooper S Roadster
BMW ผู้ครอบครองแบรนด์ MINI พยายามเปิดไลน์ของรถเล็กรุ่นนี้ให้กว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อเข้าไปแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีอยู่ทั่วโลก จากค่านิยมของคนรุ่นใหม่และวัยรุ่นเด็กแนว ที่ชอบรถยนต์ซึ่งใช้ความแปลกแยกแตกต่างด้านรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับสมรรถนะของการขับเคลื่อนที่คล้ายกับการซิ่งรถโกคาร์ท รถ MINI Cooper S Roadster มีพื้นฐานร่วมกันกับรุ่น Convertible และนำเอากระจกบังลมบานหน้าของรุ่น Coupe มาปรับใช้ การมีสองที่นั่งทำให้มุมมองของเจ้าจิ๋วเปิดหลังคาคันนี้ ดูลงตัวมากกว่ารุ่น Convertible 4 ที่นั่งซึ่งออกมาทำตลาดก่อนหน้านี้ ตัวถังมีความมั่นคงสูงขึ้น ช่วงล่างแข็งขึ้นอีกนิดเพื่อเพิ่มระดับของการยึดเกาะยามเทโค้ง ฐานล้อที่สั้นยังมอบความรู้สึกกระชับฉับไวเหมือนเดิม ในยุโรปมีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลายกว่า เช่น ดีเซล 2.0 ลิตร ที่ประหยัดเชื้อเพลิง หรือเครื่อง 1.6 ลิตรอัดเทอร์โบเดี่ยว พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้ามากขึ้นมาอีกนิดที่ 181 แรงม้า เครื่องยนต์ของมันถูกปรับมาเพื่อให้อัตราเร่งที่ทันอกทันใจ แรงบิด 177 ปอนด์ฟุต มาในรอบเครื่องระดับกลางๆ พร้อม Overboost ของชุดเทอร์โบที่ผู้ขับสามารถเรียกกำลังในย่านรอบเครื่องยนต์สูงๆ รถ Cooper S Roadster เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ได้ใน 7.0 วินาที ความเร็วสูงสุดแตะระดับ 224 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากกล้าพอ น้ำหนักตัวรวม 1,185 กิโลกรัม ราคาประมาณ 20,900 ปอนด์ ในประเทศอังกฤษ

Mazda-3 MPS Version 2
เจ้า 3 พลังสูงคันนี้คือรถรุ่นแรงสุดในรหัส 3 จากค่าย Zoom Zoom กระจังหน้าดำแปะตรา MPS ไฟหน้า ไฟท้าย และสัดส่วนของตัวถังยังคงคล้ายกับของเดิมทั้งหมด ส่วนฝากระโปรงหน้าเจาะสคูปตรงกลาง เพื่อเหนี่ยวนำกระแสอากาศเข้าไประบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ การปรับปรุงครั้งใหญ่ในระบบรองรับ และความแข็งแรงของโครงสร้างที่เพิ่มมากขึ้น มีความเหมาะสมกับย่านกำลัง 256 แรงม้าของเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.3 ลิตร กับแรงบิดระดับ 379 นิวตันเมตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ลดความร้อนของมวลอากาศที่จะประจุเข้าสู่ท่อร่วมไอดี น้ำหนักตัวประมาณ 1,417 กิโลกรัม ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 6.1 วินาทีเท่าเดิม ความเร็วสูงสุด 248 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในห้องโดยสารปรับส่วนล่างของแผงหน้าปัดใหม่ให้มีความลงตัว ไฟเรืองแสงสีส้มที่ร้อนแรงของหน้าปัดยังเหมือนเดิม มีระบบเครื่องเสียงชั้นดีจาก Bose เพิ่มเติมเข้ามา ราคาค่าตัวของเจ้า Mazda-3 MPS Version 2 อยู่ที่ 24,000 ปอนด์ แลกกับสปอร์ตแฮตช์แบคที่ขับได้ดีสมค่าตัว

Suzuki Swift Sport 3 Door
เจ้าจิ๋วตัวเจ็บจากญี่ปุ่นคันนี้มีประตูแค่ 3 บาน จากที่เคยมีถึง 5 ประตูในรุ่นปกติรวมถึงรุ่น ECO มันวางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ปริมาตรความจุ 1.6 ลิตร 1586 ซีซี บวกแรงบิดอีก 160 นิวตันเมตร น้ำหนัก 1,040 กิโลกรัม ไม่มีระบบอัดอากาศมาคอยช่วยเพิ่มแรงม้าและแรงบิด กำลัง 134 แรงม้าเกิดขึ้นเองจากเครื่องยนต์ล้วนๆ แฮตช์แบค 3 ประตู น้ำหนักเบาขับเคลื่อนล้อหน้าคันนี้ ยังมีอัตราทดถึง 6 เกียร์ และมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์สามารถลากรอบได้ถึง 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดมาในรอบสูงย่าน 3,000-5,000 รอบ สาแก่ใจพวกชอบขับลากรอบ อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 8.7 วินาที ความเร็วปลายไหลได้ถึง 193.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในราคาค่าตัวชวนซื้อที่ 14,000 ปอนด์ น่าเสียดายที่เมืองไทยมีขายแค่รุ่น 5 ประตูจอมประหยัดเท่านั้น

Mercedes Benz C63 AMG Black Series
นี่คือรถ C-Class Coupe ที่ร้อนแรงที่สุดและทรงพลังมากที่สุด เท่าที่ค่ายตราดาวเคยสร้างรถยนต์รุ่นนี้ขึ้นมา มันคือผลงานระดับมาสเตอร์พีซของช่างและวิศวกรในแผนก AMG ที่ส่งถ่ายความร้อนแรงของรูปลักษณ์ และย่านกำลังได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว รถสปอร์ตคูเป้สุดร้อน Benz C63 AMG Black Series คันนี้ วางเครื่องยนต์รหัส M156 แบบ V8 ปริมาตรความจุ 6.2 ลิตร หรืิอ 6,208 ซีซี เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ให้แรงม้าถึง 517 ตัว ถูกวางให้ร่นเข้าไปใกล้ตำแหน่งศูนย์กลางมากที่สุด เพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดี การวางเครื่องในลักษณะดังกล่าว ยังช่วยให้ตัวรถมีความเสถียรด้านการทรงตัว เมื่อต้องวิ่งที่รอบสูงทั้งทางตรงและทางโค้ง ออย์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ เข้ามาช่วยขจัดความร้อนส่วนเกินของเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น เจ้าของรถ C63 AMG Black Series ทุกคนจะชื่นชอบกับแรงบิดระดับ 611 นิวตันเมตร ที่สามารถอัดจากจุดหยุดนิ่งไปยังระดับ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.2 วินาที และตะกายไปถึงความเร็วสูงสุดที่ 249 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้หากมีถนนว่างมากพอ (ล็อกความเร็วตามกฎหมายของยุโรป) น้ำหนักประมาณ 1,710 กิโลกรัม กลายเป็นตัวถ่วงให้มันมีอัตราเร่งอยูในระดับปานกลาง ไม่ดิบโหดเท่ากับพวกซุปเปอร์คาร์บางรุ่นที่เร่งได้ต่ำกว่า 4.0 วินาที ในการทะยานไปสู่หลัก 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจากจุดหยุดนิ่ง ระบบห้ามล้อใช้จานคาร์บอนกว้าง 390 มิลลิเมตรกับคาร์ลิปเปอร์ 6 ลูกสูบที่ล้อคู่หน้า ส่วนเบรกของล้อหลังใช้จาน 360 มิลลิเมตร กับคาร์ลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ ล้ออัลลอยรมดำหน้ากว้าง 20 นิ้ว ห่อรัดด้วยยางราคาแพงสมรรถนะสูง Pirelli รุ่น P Zero Corsa ไซส์ 275/30/ZR20 ที่ล้อหลัง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ MCT-7 พร้อมโหมดการขับขี่อีก 4 รูปแบบ ต้องควักกระเป๋ากันถึง 110,000 ปอนด์ กับการได้ครอบครองรถ C-Class แบบ 2 ประตูที่ถือได้ว่าแรงที่สุดแล้วภายใต้ร่มธงของค่ายตราดาว

Porsche Boxster 2012
เจเนอเรชั่นล่าสุดของเจ้ากบตัวเล็กแบบเปิดหลังคา ออกวางขายแล้วทั่วโลก รถ Boxster 2012 ปรับเปลี่ยนไฟหน้า ไฟท้าย ทรงของตัวถังและระบบขับเคลื่อนต่างๆ จนมันสามารถขึ้นถึงจุดสูงสุดของสมรรถนะและประสิทธิภาพ บนตัวรถเปิดประทุนเครื่องยนต์วางกลางลำคันล่าสุดจาก Porsche ฟังก์ชั่น Start-Stop ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลภาวะถูกนำมาใช้ใน Boxster ตัวใหม่นี้ด้วย ฐานล้อและระยะห่างระหว่างล้อ ถูกยืดขยายเพื่อเพิ่มเติมการยึดเกาะให้มากยิ่งขึ้น รถ Boxster 2012 รุ่นล่าสุด วางเครื่องยนต์สูบนอนแบบ Boxer 6 กระบอกสูบ ในรุ่นมาตรฐาน 2.7 ลิตร มีกำลัง 265 แรงม้า มากขึ้นจากรุ่นเก่าที่มีเพียงแค่ 250 แรงม้า ส่วนรุ่น S มาพร้อมกับเครื่อง Boxer 3.4 ลิตร 6 สูบนอนยันที่ให้ม้าท่วมๆ ถึง 315 แรงม้า มีความประหยัดมากขึ้นอีก 15% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องตัวเก่า ชุดส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์ PDK-7 ที่ร้อนแรงเหมาะกับรุ่นสูงสุด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 5.0 วินาที สำหรับรุ่นสูงสุด พร้อมด้วยออปชั่นพิเศษ Sport Chrono Package เข้ามาช่วยเสริมความมั่นใจ และช่วยให้ตัวรถมีความเร็วเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

Lexus LF-LC
Concept Car LF-LC ดูเหมือนซุปเปอร์คาร์รุ่น LFA ย่อส่วน ทีมออกแบบของ Lexus ปรับแนวกระจังหน้าให้ใหญ่ขึ้นและลดขนาดของตัวถังให้สั้นกระชับ สัดส่วนทรงสปอร์ตจีทีของรถต้นแบบแนวคิดรุ่น LF-LC จากค่ายหัวลูกศร สื่อให้เห็นถึงทิศทางในอนาคตของรถสปอร์ตแบรนด์หรูจากแดนปลาดิบ ตัวถูกเปิดเผยออกมาเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2012 มันถูกออกแบบในสตูดิโอของ Lexus ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา กระจังหน้าแบบใหม่คล้ายกับซาลูนรุ่นล่าสุดรหัส GS แนวหลังคาที่ลาดเอียงจากเสาหน้าจรดเสาท้ายที่สมบูรณ์แบบด้วยเส้นสาย แนวคอดและโป่งของซุ้มล้อหลัง ปล่องดักอากาศที่เหนือซุ้มโป่งหลัง ยังส่งถ่ายความดุดันของตัวรถให้เข้มข้นขึ้น รถ Concept Car Lexus LF-LC ขับเคลื่อนด้วยระบบ Hybrid มันใช้เครื่องยนต์เบนซินระบบ Atkinson พ่วงด้วยด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน มอเตอร์ไฟฟ้าของมันมาจากรถ LS600 hL ที่ให้กำลังสูงสุดจากการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ V6 ถึง 438 แรงม้า Baby LFA คันนี้จะผลิตออกขายหรือไม่นั้นคงต้องรอไปอีกสักระยะ
 


Hyundai Elantra GT And Coupe
ในประเทศไทย Hyundai Elantra รุ่น 4 ประตู ถูกเปิดตัวไปเมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้ หากแต่ในสหรัฐอเมริกา ยุโรปและเอเชียบางประเทศนั้น ค่ายรถจากแดนกิมจิที่กำลังมาแรงเปิดตัว New Elantra GT And Coupe ออกมาทำตลาดตามหลังรุ่นซีดานที่วางขายมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แนวคิด Fluidic Sculpture ใช้เส้นสายรอบคันที่มีความเฉี่ยวคมและต่อเนื่องกลมกลืน ให้มุมมองที่ลื่นไหลคล้ายสายน้ำ โดยรุ่น Elantra GT เป็นรถแบบแฮตช์แบค 5 ประตูทรงสปอร์ตที่ออกแบบจากสำนักงานของ Hyundai ในยุโรป ส่วนรุ่น Elantra Coupe มาในรูปลักษณ์รถคูเป้ 2 ประตูที่สวยงาม ทั้งสองเวอร์ชั่นใช้โครงสร้างร่วมกับรุ่น 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 148 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัต 6 สปีด Shifttronic ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังใช้ทอร์ชั่นบีม โดยเน้นไปที่ความคล่องตัวและกระชับในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกยามขับขี่

Audi TT RS Plus
ค่ายสี่ห่วงจากเยอรมันเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่น TT ที่แรงที่สุดเป็นครั้งสุดท้ายต่อจากรุ่น RS ด้วยการใช้สัญลักษณ์ Plus พ่วงท้ายตัวรถถูกขจัดน้ำหนักส่วนเกินออกไปด้วยวัสดุประเภทคาร์บอนไฟเบอร์ เครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ 2.5 ลิตร TSFI อัพแรงม้าเพิ่มเข้ามาอีก 25 ตัว ทำให้ Audi TT RS Plus มีม้า 360 ตัวกับแรงบิด 465 นิวตันเมตร จากการเสกเป่าของเทอร์โบ ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ S-Tronic 7 สปีด พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Lunch Control และชุดขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Quattro Version-5 เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรได้ในเวลา 4.1 วินาที เร็วพอๆ กับซุปเปอร์คาร์บางรุ่น ส่วน TT RS Plus Roadster รุ่นเปิดประทุน อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร จะเพิ่มเป็น 4.3 วินาที จากน้ำหนักตัวที่มากกว่า TT RS Plus รุ่นหลังคาแข็ง ล้ออัลลอย 19 นิ้วกับยาง 255/35/R19 กับระบบเบรก 4 พอตช่วยสร้างความมั่นใจยามขับขี่ รวมถึงห้องโดยสารที่ตกแต่งมาเป็นอย่างดีและกลายเป็นห้องโดยสารที่มีการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด

Arcom roumsuwan

ขอขอบคุณไทยรัฐออนไลน์